ประวัติลูกเสือโลก
การก่อตั้งลูกเสือโลก เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งโดย Lord Baden Powell (ลอร์ด เบเดน เพาเวลด์) ในปี เมื่อ พ.ศ.2451 ซึ่งนายพล เบเดน เพาเวลล์ (Lord Baden Powell) นั้นมีแรงบันดาลใจมากจาก การที่เขาเป็นทหารแล้วถูกส่งให้ไปรักษาเมืองและดูแลความเรียบร้อยที่ เมืองมาฟฟิคิง (Mafiking) ซึ่งตอนนั้นเกิดสงครามกับกลุ่ม บัวร์ (Boer) และการทำสงครามในครั้งนั้น นายพลเบเดน เพาเวลล์ (Lord Baden Powell) ได้ฝึกกลุ่มเด็ก ๆ ขึ้นมากลุ่มหนึ่ง เพื่อเป็นหน่วยราชการลับ ให้ไปสอดแนม เป็นผู้สื่อข่าว รวมถึงการรักษาความสงบภายในด้วย นอกจากนี้ยังฝึกฝนในเรื่องของการทำครัว ให้เด็ก ๆ กลุ่มนี้ เพื่อการเอาตัวรอดอีกด้วย ผลออกมาประสบความสำเร็จมาก เด็ก ๆ ทุกคน ในกลุ่มสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งเด็กบางคนมีความสามรถทัดเทียมผู้ใหญ่เลยทีเดียว
หลังจากที่นายพล เบเดน เพาเวลล์ (Lord Baden Powell) กลับมาจากสงครามในเมืองมาฟฟิคิงแล้ว จึงได้ตั้งกลุ่มเด็ก ๆ ขึ้นมาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2450 เขาได้ก่อตั้งลูกเสือ หรือ Boy Scout ขึ้นที่ เกาะบราวน์ซี ไอแลนด์ (Brown Sea Island ) โดยให้กลุ่มเด็ก ๆ ที่เที่ยวเตร่ เกเร เข้ามาฝึกอบอรมกับโครงการนี้ ได้ฝึกให้เด็ก ๆ มีเป้าหมาย และรู้จักเรียนรู้ พัฒนา และช่วยเหลือตัวเอง ตามที่ตนถนัด หลังการนั้นลูกเสือจึงได้มีการขยายไปทั่ว จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2455 ทางรัฐบาลอังกฤษได้ออกกฎหมายให้กลุ่มลูกเสือจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ และมีกฎหมายคุ้มครอง จึงทำให้ลูกเสือได้พัฒนาและขยายออกไปทั่วโลก สำหรับคติพจน์ที่นายพล บาเดนเพาเวลล์ ได้ให้ไว้กับลูกเสือก็คือ BE PREPARED (จงเตรียมพร้อม)
เมื่อกลุ่มลูกเสือได้รับการก่อตั้งอย่างเป็นทางการระดับประเทศแล้ว หนังสือ Scouting for boys ก็ได้มีการตีพิมพ์ออกมา และประเทศต่าง ๆ ที่มีการก่อตั้งกลุ่มลูกเสือก็ได้รับความสนใจ รวมถึงประเทศไทยด้วย จากความดีความชอบที่นายพลโท โรเบิร์ต เบเดน โพเอลล์ ได้ทำให้ไว้กับประเทศอังกฤษ ทำให้เขาได้รับพระราชทานได้รับตำแหน่งเป็น บารอน โดยพระเจ้ายอร์จ ที่ 5ต่อมาในปี พ.ศ. 2472 ทำให้เขาเป็นสมาชิกสภาขุนนาง และชื่อเต็ม ๆ ของเขาหลังจากได้รับตำแหน่งแล้วก็คือ บารอน เบเดน โพเอลล์ แห่ง กิลเวลล์ ซึ่ง กิลเวลล์ (Gil Well Park)เป็นชื่อสถานที่ตั้งของศูนย์อมรมลูกเสือโลกนั่นเอง จากนั้นในปีพ.ศ. 2463 ได้มีการเชิญตัวแทนลูกเสือจากทั่วโลก ให้เข้ามาร่วมประชุมลูกเสือโลกครั้งแรก และในปัจจุบัน บารอน เบเดน โพเอลล์ แห่ง กิลเวลล์ หรือบางคนเรียกเขาย่อ ๆ ว่า B-P ถือได้ว่าเขาเป็นบิดาแห่งลูกเสือโลก
ขอบคุณผู้สนับสนุน: W88
ลูกเสือไทยนั้นถูกก่อตั้งโดย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งในขณะที่พรองค์ยังทรงพระเยาว์นั้น ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และได้ทรงทราบว่า ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Lord Baden Powell) ได้ก่อตั้งกองทหารเด็ก เพื่อเป็นหน่วยสอดแนมให้กับบัวร์ (Boar) แล้วก็ได้รับความสำเร็จ ซึ่งก็คือ กองลูกเสือนั่นเอง หลังจากที่พระองค์เสด็จนิวัติกลับกรุงสยาม ก็ได้ก่อตั้งกองเสือป่าขึ้น เพื่อให้ข้าราชการและพลเรือนได้เรียนรู้วิชาทหาร และยังช่วยให้ประเทศชาติเกิดการพัฒนาไปมากขึ้นด้วย นอกจากนี้กองลูกเสือยังปลูกฝังให้รู้จักการ รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้น พระองค์ท่านก็ได้พระราชทานก่อตั้งลูกเสือไทยขึ้นในวันที่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2454 เพื่อให้เด็กชายในวัยปฐมได้เรียนรู้ทางเสือป่า และวิชาลูกเสือ รวมถึงยังเป็นการปลูกฝังให้มีความรักในสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อีกด้วย ซึ่งก่อตั้งครั้งแรกขึ้นที่ โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (โรงเรียนวชิราวุธ ในปัจจุบัน) จากนั้นจึงได้มีการขยายไปสู่วิชาลูกเสือในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยพระราชทาน คำขวัญให้ลูกเสือว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ส่วนลูกเสือคนแรกของประเทศไทยก็คือ นายชัพท์ บุนนาค
ต่อมาในปี ปี พ.ศ. 2463 ได้มีการส่งลูกเสือไทยไปเป็นตัวแทนประชุมลูกเสือโลก 4 คน ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นในปี พ.ศ. 2465 ลูกเสือไทยก็ได้มีการสมัครเป็นสมาชิกของลูกเสือโลก ทั้งหมด 31 ประเทศ และกจการของลูกเสือไทยก็ได้มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2504 มีการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการลูกเสือไทย หลังจากนั้น พ.ศ. 2505 ลูกเสือไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บังคับบัญชาลูกเสือภาคตะวันออกไกล ครั้งที่ 3 ณ ศาลาสันติธรรม หลังจากนั้นลูกเสือไทยก็มีปรับปรุงและพัฒนาระบบการเรียนการสอน และหลักสูตรของลูกเสือไทย ให้ก้าวไกลและทันกับลูกเสืออื่น ๆ ทั่วโลก และนอกจากนี้ลูกเสือไทยก็ยังฝึกสอนให้เด็ก ๆ ทั้งชายและหญิง ให้รู้จักการอ้อนน้อมถ่องตน เคารพคนที่มีอาวุโสกว่า เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา รู้จักการให้และเสียสละมากยิ่งขึ้น
ประวัติลูกเสือไทย
นอกจากนี้ลูกเสือยังสอนให้รู้จักการบำเพ็ญประโยชน์และทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อส่วนรวมมากยิ่งขึ้น สอนให้รู้จักความสุขจากการเป็นผู้ให้ มีใจรักการบริการ มีจิตสำนึกที่ดี ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นแต่ลูกเสือยังสอนให้เป็นคนที่มีจิตใจร่าเริง มีความสุข มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งลูกเสือจะมีเพลงประจำกลุ่ม และยังมีกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ เพื่อให้ลูกเสือและเนตรนารีได้ทำกิจกรรมร่วมกัน รู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักการแบ่งหน้าที่ รู้จักเชื่อฟังซึ่งกันและกัน รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ซึ่งการเป็นลูกเสือที่ดีนั้นจะต้องเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้และช่วยกันพัฒนาให้ประเทศเจริญต่อไปยิ่งขึ้นในวันข้างหน้า
ร่วมสนับสนุนลูกเสือไทยโดยเว็บเกมออนไลน์ FUN88 สนุกได้ 24 ชั่วโมง